“ฟาร์มอัจฉริยะ” ใช้เทคโนโลยีจดจำใบหน้าหมู







กรณีศึกษาจากจีน: หรือว่าอนาคตของการเลี้ยงหมู
“ฟาร์มอัจฉริยะ” ใช้เทคโนโลยีจดจำใบหน้าหมู


ไม่ใช่แค่มนุษย์อย่างเราๆ เท่านั้น ที่เทคโนโลยีจดจำใบหน้า (Facial Recognition) จะเข้ามามีบทบาทในชีวิต เพราะตอนนี้ในประเทศจีน 
มีการนำเอาเทคโนโลยีตัวนี้มาใช้ในการเลี้ยงหมู เขาเรียกว่าเป็น “ฟาร์มอัจฉริยะ”

 

ทำไมต้องใช้เทคโนโลยีจดจำใบหน้ามาช่วยเลี้ยงหมู?

Jackson He ซีอีโอของ Yingzi Technology บริษัทเทคโนโลยีที่ตั้งอยู่ทางตอนใต้ของเมืองกวางโจวในประเทศจีน
ซึ่งผลิตเทคโนโลยีจดจำใบหน้าสำหรับฟาร์มหมูอัจฉริยะ บอกว่า เพราะนี่คืออนาคตแห่งการเลี้ยงหมูในฟาร์ม ต่อจากนี้ไป
ฟาร์มเลี้ยงหมูทุกแห่งจะกลายเป็น “ฟาร์มเลี้ยงหมูอัจฉริยะ”

  • เทคโนโลยีจดจำใบหน้าสามารถทำให้คนเลี้ยงหมูรู้ได้เลยว่า “หมูตัวไหนไม่มีความสุข หรือไม่เจริญอาหาร หรือใน
       บางกรณีสามารถคาดการณ์ได้เลยว่า หมูตัวไหนจะป่วย”

การนำเทคโนโลยีจดจำใบหน้า และรวมถึงเทคโนโลยีจดจำเสียง (Voice Recognition) เข้ามาใช้ในการเลี้ยงหมู
จะทำให้การติดตามเรื่องสุขภาวะของหมูแต่ละตัวได้แม่นยำ แต่ที่สำคัญที่สุดคือจะลดค่าใช้จ่ายในเรื่องโรคไปได้มาก
เพราะการติดตามพฤติกรรมของหมูแต่ละตัวในฟาร์ม จะทำให้เจ้าของสามารถป้องกันก่อนที่โรคจะระบาดไปสู่หมูตัวอื่นๆ ในฟาร์ม

 

ใช้เทคโนโลยีจดจำใบหน้าเลี้ยงหมู สำหรับในจีน ไม่ใช่เรื่องใหม่

การใช้เทคโนโลยีจดจำใบหน้าสำหรับเลี้ยงหมูในฟาร์มในประเทศจีน มีการนำมาใช้จริงแล้วนำโดย Alibaba และ JD.com

ยกตัวอย่างของ Alibaba ที่ได้ไปจับมือกับ Tequ Group ผู้นำด้านธุรกิจอาหารและเกษตรรายใหญ่ของจีนที่เลี้ยงหมูอยู่ปีละ
10 ล้านตัว ตามไปอ่านรายละเอียดได้ที่ Alibaba เริ่มใช้ AI ไปช่วยเลี้ยงหมูในประเทศจีน

ข้อถกเถียงเรื่อง ความคุ้มค่าในการนำมาใช้

ปัจจุบันคนเลี้ยงหมูส่วนใหญ่จะใช้วิธีการติดตามหมูโดยทำสัญลักกาณ์ติดที่หูของหมู ซึ่งหากคิดในเชิงต้นทุนการเลี้ยงแบบเดิมนี้
จะอยู่ที่ประมาณไม่เกิน 16-17 บาทต่อตัว ในขณะที่ต้นทุนของการนำเอาเทคโนโลยีจดจำใบหน้ามาใช้จะอยู่ที่ประมาณ 220 บาท

Dirk Pfeiffer ศาตราจารย์ด้านระบาดวิทยาจาก City University of Hong Kong ให้ความเห็นพร้อมกับตั้งคำถามว่า
“ฟาร์มเลี้ยงหมูอัจฉริยะใช้เทคโนโลยีจดจำใบหน้าเป็นความคิดที่ดี แต่ต้องทำให้มั่นใจให้ได้จริงๆ ว่ามันทำงานได้ผลจริง ไม่เช่นนั้น
จะไม่เกิดผลอะไรเลย แถมต้องแบกรับต้นทุนเทคโนโลยีที่สูงอีกด้วย”

ส่วน Wang Lixian นักวิจัยด้านระบาดวิทยาจาก Chinese Academy of Agricultural Sciences มองว่า ถึงที่สุดแล้วเทคโนโลยี
จดจำใบหน้าจะเกิดการนำมาใช้ในฟาร์มเลี้ยงหมู แต่ทั้งนี้จะขึ้นอยู่กับ “ราคา” ของเทคโนโลยี เพราะหากมีราคาที่ต่ำลงจนเข้าถึงได้
เชื่อว่าฟาร์มเลี้ยงหมูอัจฉริยะชนิดที่ใช้เทคโนโลยีจดจำใบหน้าหมูจะเกิดขึ้นในวงกว้างอย่างแน่นอน

อย่างไรก็ตาม ในประเทศจีนมีฟาร์มเลี้ยงหมูขนาดเล็กๆ กว่า 26 ล้านแห่ง ไม่รู้ว่าสุดท้ายแล้ว เทคโนโลยีจดจำใบหน้าจะเป็นอนาคต
ของการฟาร์มเลี้ยงหมูแห่งโลกอนาคตหรือไม่ คงต้องติดตามกันต่อไป

ที่มา – The New York Times

Visitors: 188,385