อหิวาต์แอฟริการะบาดหนัก โอกาสทองหมูไทย ตีตลาดเวียดนาม

กรมการค้าต่างประเทศ ชี้อหิวาต์แอฟริการะบาด โอกาสทองของไทย ส่งออกหมูไปตีตลาดเวียดนาม และอีกหลายประเทศ ย้ำภาครัฐ-เอกชน เฝ้าระวังใกล้ชิด เน้นด่านชายแดนภาคเหนือ...

เมื่อวันที่ 21 มี.ค. นายอดุลย์ โชตินิสากรณ์ อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ เปิดเผยว่า ขณะนี้เวียดนามประสบปัญหาจากโรคอหิวาต์แอฟริกาในสุกร (ASF) ทำให้บางพื้นที่ขาดแคลนเนื้อหมูบริโภค และต้องนำเข้าเนื้อหมูและผลิตภัณฑ์จากต่างประเทศเพิ่มขึ้น จึงถือเป็นโอกาสทองของผู้ประกอบการไทยในการส่งออกเนื้อหมูและผลิตภัณฑ์ไปเวียดนาม เพราะหมูของไทยมีกระบวนการผลิตที่ได้คุณภาพมาตรฐาน และปลอดสารเร่งเนื้อแดง ซึ่งเป็นที่ต้องการในตลาดต่างประเทศ

นอกจากนี้ ยังมีโอกาสส่งออกไปประเทศต่างๆ ที่เป็นตลาดส่งออกหลักของเวียดนามและจีน เพื่อทดแทนการนำเข้าจาก 2 ประเทศนี้ และคาดว่าทั้งจีน และเวียดนาม ต้องใช้เวลานานในการแก้ไขปัญหาโรคดังกล่าวกว่าจะส่งออกได้ตามปกติ

”เวียดนามได้ยืนยันอย่างเป็นทางการหลังพบโรค ASF ที่ฟาร์มเลี้ยงหมู 3 แห่งในจังหวัดฮึงเอียน จังหวัดท้ายบิ่ง และนครหายฟ่อง ซึ่งเป็นผลมาจากการแพร่ระบาดทั่วประเทศจีน ตั้งแต่เดือน ส.ค.61 ส่งผลให้เวียดนามต้องฆ่าหมูทุกตัวที่อยู่ในเขตจังหวัดที่พบโรค”

อย่างไรก็ตาม แม้โรค ASF ยังไม่ระบาดมาถึงไทย แต่ภาครัฐและเอกชนของไทยได้ร่วมมือกันเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด โดยเพิ่มมาตรการการป้องกันและการตรวจสอบการนำเข้าเนื้อหมูและผลิตภัณฑ์ให้เข้มงวดมากขึ้น โดยเฉพาะด่านชายแดนทางภาคเหนือ ที่ต้องเฝ้าระวังเป็นพิเศษจากกลุ่มนักท่องเที่ยวเชิงธรรมชาติ เพื่อไม่ให้สร้างความเสียหายต่ออุตสาหกรรมการเลี้ยงหมู และกระทบต่อความเชื่อมั่นของผู้บริโภคที่มีต่อหมูไทยได้

สำหรับในปี 61 ไทยส่งออกหมูมีชีวิต 815,385 ตัว มูลค่า 3,184.90 ล้านบาท โดยส่งออกไปกัมพูชาเป็นอันดับหนึ่ง คิดเป็น 74% รองลงมา ได้แก่ ลาว 17% และเมียนมา 9% ของมูลค่าการส่งออก นอกจากนี้ ยังส่งออกเนื้อหมูและผลิตภัณฑ์ 15,471.6 ตัน มูลค่า 2,325.7 ล้านบาท แบ่งเป็น เนื้อหมูแช่เย็นแช่แข็ง 2,388 ตัน มูลค่า 178.10 ล้านบาท โดยส่งออกไปฮ่องกงเป็นอันดับหนึ่ง 49% รองลงมา คือ ลาว 18% เมียนมา 17% และมาเลเซีย 13%, เนื้อหมูแปรรูป 7,333.9 ตัน มูลค่า 1,847.4 ล้านบาท โดยส่งออกไปญี่ปุ่นเป็นอันดับหนึ่ง 89% รองลงมา คือ ฮ่องกง 7% และเมียนมา 2% และเครื่องในหมู 5,749.7 ตัน มูลค่า 300.2 ล้านบาท โดยส่งออกไปลาวเป็นอันดับหนึ่ง 96% รองลงมา ได้แก่ เมียนมา 3.17%.

Visitors: 187,966