ชาวเกษตรกรเตรียมรับมือพายุโซนร้อน “ปาบึก”

ปศุสัตว์ พร้อมรับมือ "PABUK" เพื่อลดความสูญเสียด้านปศุสัตว์และสัตว์เลี้ยงให้น้อยที่สุด

กรมปศุสัตว์ตั้งศูนย์ปฏิบัติการเฉพาะกิจรับมือพายุโซนร้อน “PABUK” มีรองอธิบดี เป็นหัวหน้าศูนย์ฯ เตรียมความพร้อม 24 ชั่วโมง ในการช่วยเหลือเกษตรกรผู้ประสบภัยพิบัติด้านปศุสัตว์และสัตว์เลี้ยง

นายสัตวแพทย์สรวิศ ธานีโต อธิบดีกรมปศุสัตว์ เปิดเผยว่า ตามที่มีประกาศกรมอุตุนิยมวิทยา เรื่อง พายุโซนร้อน “ปาบึก” (PABUK) จะเคลื่อนขึ้นฝั่งบริเวณจังหวัดนครศรีธรรมราช ในช่วงค่ำของวันที่ 4 มกราคม 2562 โดยจะมีผลกระทบต่อภาคใต้ในช่วงวันที่ 3-5 มกราคม 2562 ทำให้บริเวณดังกล่าวมีลมแรง ฝนตกเป็นบริเวณกว้าง และมีฝนตกหนักมากบางแห่ง นั้น

กรมปศุสัตว์ ได้จัดทำและนำแผนเผชิญเหตุเร่งด่วนออกมาใช้สำหรับรับมือพายุโซนร้อน “ปาบึก” (PABUK) โดยในรายละเอียดแผนเผชิญเหตุ นั้น ประกอบไปด้วย

1. ตั้งศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือเกษตรกรผู้ประสบภัยด้านปศุสัตว์ตลอด 24 ชม. โดยมีรองอธิบดีกรมปศุสัตว์ เป็นหัวหน้าศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือภัยพิบัติ (ด้านปศุสัตว์) หรือ War Room ซึ่งมีผู้อำนวยการส่งเสริมและพัฒนาการปศุสัตว์เป็นเลขานุการ ผู้อำนวยการสำนักพัฒนาอาหารสัตว์เป็นผู้ช่วยเลขานุการ ผู้อำนวยการกอง/สำนักในส่วนกลางทุกส่วนเป็นคณะทำงาน และให้เริ่มตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไปกระทั่งเหตุการณ์สงบ เกษตรกรได้รับความช่วยเหลืออย่างทันท่วงทีและทั่วถึง และให้รายงานสถานการณ์ ทุกวันๆ ละ 2 ครั้ง ทั้งนี้ ให้ตั้ง war room ด้านปศุสัตว์ทุกจังหวัด

2. จัดเตรียมบุคลากร และเครื่องมือให้มีความพร้อม 24 ชั่วโมง ประกอบด้วย
2.1 จุดอพยพสัตว์ในพื้นที่เสี่ยงภัย ประสานอาสาปศุสัตว์และทีมท้องที่เพื่อชี้เป้า พร้อมรับในทุกสถานการณ์ รวม 162 แห่ง
2.2 หน่วยเคลื่อนที่เร็ว รวม 36 หน่วย พร้อมช่วยด้านการรักษาพยาบาลสัตว์ การอพยพเคลื่อนย้ายสัตว์เลี้ยง การลำเลียงและขนย้ายเสบียงสัตว์ไปให้ความช่วยเหลือ
2.3 เสบียงสัตว์ รวม 1,200 ตัน ในคลังเสบียงของ ศูนย์วิจัยและพัฒนาอาหารสัตว์ทุกแห่งในพื้นที่ประสบเหตุชั้นใน และอีก 3,200 ตัน ในพื้นที่รอบนอก คน-พาหนะพร้อมในปฏิบัติการ
2.4 ถุงยังชีพปศุสัตว์ เบื้องต้น 2,100 ชุด ซึ่งแต่ละชุดประกอบด้วย อาหารสัตว์สำเร็จรูป ยาและเวชภัณฑ์ สำหรับการช่วยเหลือและการปฐมพยาบาลเบื้องต้นและให้จัดทำเพิ่มเติมเพื่อให้เพียงพอและสามารถใช้ได้อย่างทันท่วงที
2.5 เจ้าหน้าที่ด่านกักกันสัตว์ในพื้นที่ของปศุสัตว์เขต 7 เขต 8 และเขต 9 เตรียมความพร้อมไว้สูงสุด เพื่อเป็นกำลังเสริมในการประสานกับปศุสัตว์จังหวัด

นายสัตวแพทย์สรวิศ กล่าวเพิ่มเติมต่อไปว่า ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ปศุสัตว์ทุกหน่วยในพื้นที่เขต 7 เขต 8 และเขต 9 รวม 16 จังหวัด เร่งรัดการประชาสัมพันธ์ สร้างการรับรู้ในการป้องกันดูแลปศุสัตว์และสัตว์เลี้ยงของตนเอง หากพบเหตุต้องให้การช่วยเหลือเกษตรกรอย่างรวดเร็วเพื่อลดความเสียหาย โดยมีศูนย์ปฏิบัติการในส่วนกลางที่พร้อมประสานสรรพกำลังและเสบียงอาหารสัตว์พร้อมเวชภัณฑ์สัตว์ ลงพื้นที่ประสบภัยเสริมได้ทันที ทั้งนี้ เป้าหมายเร่งด่วนของภารกิจครั้งนี้คือลดการสูญเสียด้านปศุสัตว์และสัตว์เลี้ยงให้น้อยที่สุด

--------------------------------------------

ข้อมูล : กองส่งเสริมและพัฒนาการปศุสัตว์ กรมปศุสัตว์ (3 มกราคม 2562)
ข่าว/เรียบเรียง : คณะทำงานโฆษกกรมปศุสัตว์ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์

Visitors: 187,801